การตั้งสมมติฐาน

การเขียนสมมติฐานการวิจัย

แนวคิด  หลักการหรือทฤษฎี

         สมมติฐาน  (Hypotheses)  คือ คำตอบสมมติของประเด็นปัญหาวิจัย  ซึ่งผู้วิจัยกำหนดขึ้น  สมมติฐาน  มีประโยชน์  คือ  สามารถให้แนวทางในการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล  หากผลการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฏในหลักฐานสนับสนุนหรือยืนยันสมมติฐาน  ผู้วิจัยก็ยอมรับสมมติฐาน  นั่นคือ  ถือว่าสมมติฐานที่ตั้งไว้ไม่ใช่คำตอบสมมติแต่เป็นคำตอบที่เป็นจริง  เชื่อถือได้  การเขียนสมมติฐานอาจเขียนได้เป็น 2  แบบกล่าวคือ
         แบบที่  1  เขียนในรูปของสมมติฐานว่างหรือสมมติฐานศูนย์  มักเขียนในรูปของการปฏิเสธ เช่น ไม่แตกต่างหรือไม่มีความสัมพันธ์
         แบบที่  2  เขียนในรูปของตรงกันข้ามกับสมมติฐานว่ากล่าวคือ ระบุลงไปว่า  มีความแตกต่าง หรือมีความสัมพันธ์
         โครงการวิจัยอาจจะมีสมมติฐานหรือไม่มีก็ได้  แต่ถ้ามีจะต้องมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
             สมมติฐานการวิจัยเป็นสิ่งที่ผู้วิจัยคาดการณ์ หรือคาดคะแนว่าน่าจะเป็นคำตอบของปัญหาหรือข้อสงสัยที่ทำการศึกษา ก่อนที่จะทำการวิจัย การตั้งสมมติฐานต้องตั้งบนรากฐานแนวคิด ทฤษฎี ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา การตั้งสมมติฐานควรคำนึงถึง ไม่ใช่การคาดเดาโดยไม่มีเหตุผล หรือตั้งขึ้นมาลอยๆ การเขียนสมมติฐานการวิจัยควรมีลักษณะดังนี้
            1. มีความชัดเจน สามารถทดสอบได้
            2. ควรเขียนโดยใช้ภาษาที่ง่าย ไม่สลับซับซ้อน
            3. ควรเขียนให้สอดคล้องสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ของการวิจัย
ตัวอย่าง
 หัวข้อการวิจัย การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้ชุดการสอนชุดมินิคร์อสกับเรียนโดยการสอนตามคู่มือครูของ สสวท.
            สมมติฐาน
                  1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ระหว่าง การวิจัยกลุ่มทดลองที่เรียนโดยชุดการสอนมินิคร์อสกับกลุ่มควบคุมที่เรียนโดยวิธีสอนตามคู่มือครูของ สสวท. มีความแตกต่างกัน
                  2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ระหว่างกลุ่มทดลองที่เรียนโดยชุดการสอนมินิคร์อสกับกลุ่มที่เรียนโดยวิธีสอนตามคู่มือครูของ สสวท. มีความแตกต่างกัน
         หัวข้อการวิจัย :  การสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านคำที่ใช้อักษร  ร  ล  ว  ควบกล้ำ  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  6
         สมมติฐานการวิจัย  กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการฝึกจากแบบฝึกทักษะการอ่านคำที่ใช้อักษร  ร  ล  ว  ควบกล้ำ  จะมีความสามารถในการอ่านคำที่ใช้อักษร  ร  ล  ว  ควบกล้ำดีขึ้น
subscribe

การตั้งสมมติฐาน

         คือ การทำนายผล การคาดเดาเหตุการณ์ หรือการคิดคำตอบล่วงหน้า อย่างมีเหตุมีผล โดยอาศัยหลักการ ความรู้ หรือประสบการณ์เดิมที่มีอยู่

หลักเกณฑ์การตั้งสมมติฐาน

  1. ต้องเป็นข้อความที่บอกความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นกับตัวแปรตาม
  2. ใน 1 ปัญหา อาจมีหลายสมมติฐานได้ และสมมติฐานอาจจะผิดหรือถูกก็ได้
  3. มักใช้คำว่า "ถ้า...........ดังนั้น"

ตัวอย่างการตั้งสมมติฐาน

     1. ชื่อเรื่อง : เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของถั่วงอกที่ปลูกกลางแจ้งและปลูกในที่ร่ม
         ตัวแปรต้น : การปลูกถั่วงอกกลางแจ้งและปลูกในร่ม
         ตัวแปรตาม : การเจริญเติบโตของถั่วงอก
         สมมติฐาน : ถั่วงอกที่ปลูกกลางแจ้งจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าถั่วงอกที่ปลูกในที่ร่ม

    2. ชื่อเรื่อง : เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของถั่วงอกที่ปลูกกลางแจ้งและปลูกในที่ร่ม
         ตัวแปรต้น : แสงแดด
         ตัวแปรตาม : การเจริญเติบโตของถั่วงอก
         สมมติฐาน : ถ้าแสงแดดมีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วงอก ดังนั้นถั่วงอกที่ปลูกกลางแจ้งจะเจริญเติบโตได้ดี

แบบฝึกหัด

     ให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ต่อไปนี้ แล้วทำลงในสมุด
            ในการเข้าค่ายลูกเสือ ครูผู้กำกับลูกเสือให้ลูกเสือแต่ละหมู่ทำการหุงข้าว ลูกเสือแต่ละหมู่ก็ต่างทายกันว่าข้าวของหมู่ใดจะสุกก่อนกัน
             นักเรียนคิดว่าอะไรคือตัวแปรต้น ที่จะทำให้ข้าวสุกไม่พร้อมกันได้บ้างให้บอกมา 4 อย่าง
      1..................................................
      2..................................................
      3..................................................
      4..................................................
             ให้นักเรียนตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับตัวแปรแต่ละตัวด้วย
      1..................................................
      2..................................................
      3..................................................
      4..................................................

กิจกรรมที่ 3 การตั้งสมมติฐาน

ให้นักเรียนจับคู่ ตั้งสมมติฐานตามเรื่องที่ตั้งมา อย่างน้อย 3 สมมติฐาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น