การสร้างแบบสอบถาม

รูปแบบ .. คำถามในแบบสอบถาม
รศ.ธานินทร์ ศิลป์จารุ ได้จำแนกข้อคำถามในแบบสอบถามไว้ 2 แบบดังนี้ [6].p72
1. ข้อคำถามแบบเปิด (Open ended question)
เป็นคำถามที่ผู้ตอบสามารถตอบได้อย่างเสรี ไม่มีตัวเลือก
ทำให้ได้ข้อมูลจากผู้ตอบ เชิงกว้าง และเป็นจริง แต่ต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลมาก
มีนักวิจัยมักใช้คำถามแบบเปิดเก็บข้อมูล เพื่อนำมาสร้างคำถามแบบปิดในลำดับต่อไป
2. ข้อคำถามแบบปิด (Close ended question)
2.1 แบบตรวจสอบรายการ (Check List question)
2.2 แบบจัดอันดับ (Ranking question)
2.3 แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale)

ตัวอย่างหัวข้อประเมินความพึงพอใจต่อการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์
จากงานเรื่อง "การพัฒนาและการประเมินประสิทธิภาพของโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับการจัดเก็บข้อมูลเพื่อการให้คำปรึกษาในผู้ป่วยเบาหวาน"
ค่าสถิติคือ mean กับ standard deviation
1. ความสะดวกในการใช้งาน
2. ความเหมาะสม/ความสมบูรณ์ของการรองรับข้อมูลเพื่อการบันทึก
3. ความรวดเร็วในการวิเคราะห์ข้อมูล
4. ความสวยงามของหน้าตาโปรแกรม
5. ประโยชน์ของโปรแกรมต่อการนำไปใช้
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2553/1862

คุณภาพโดยทั่วไปของซอฟต์แวร์
1. Correctness มีความถูกต้อง
2. Reliability มีความน่าเชื่อถือ
3. Robustness ทำงานได้ต่อเนื่อง
4. Performance มีประสิทธิภาพ
5. User friendliness ใช้งานง่าย
6. Verifiability ตรวจสอบได้
7. Portability รองรับได้ทุกสภาพ
8. Maintainability ง่ายสำหรับพัฒนา
9. Reusability นำกลับมาใช้ได้
10. Reparability แก้ไขข้อบกพร่องได้ง่าย
11. Visibility ติดตามความก้าวหน้าได้
12. Understandability เข้าใจง่าย
13. User documentation มีเอกสารคู่มืออธิบาย
14. Timeliness ผลิตตรงเวลา
15. Interoperability ทำงานร่วมกับระบบอื่นได้
http://ampapemii.blogspot.com/2014/06/software-1.html
มาตรฐานสากลสำหรับการวัดคุณภาพซอฟต์แวร์ ISO/IEC 9126
International Organization 
for Standardization/International Electrotechnical Commission 9126
มีปัจจัยที่นำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินทั้งหมด 6 ปัจจัยหลัก
1. หน้าที่การทำงาน (Functionality) มีปัจจัยย่อย 5 ประเด็น 
    - ความเหมาะสม (Suitability)
    - ความถูกต้อง (Accuracy)
    - การทำงานร่วมกัน (Interoperability)
    - ความปลอดภัย (Security)
    - ทำหน้าที่ตามที่ตั้งไว้ (Functionality Compliance)
2. ความเชื่อถือได้ (Reliability) มีปัจจัยย่อย 4 ประเด็น
    - ความสมบูรณ์ (Maturity)
    - ทนต่อความผิดพลาด (Fault Tolerance)
    - กู้คืนได้ (Recoverability)
    - น่าเชื่อถือตามที่ตั้งไว้ (Reliability Compliance)
3. ความสามารถในการใช้งาน (Usability) มีปัจจัยย่อย 5 ประเด็น
    - เข้าใจได้ (Understandability)
    - เรียนรู้ได้ (Learnability)
    - ปฏิบัติงานได้ (Operability)
    - ความน่าสนใจ (Attractiveness)
    - ใช้งานตามที่ตั้งไว้ (Usability Compliance)
4. ประสิทธิภาพ (Efficiency) มีปัจจัยย่อย 3 ประเด็น
    - ทำงานได้ตรงเวลา (Time Behaviour)
    - ใช้ประโยชน์ทรัพยากร (Resource Utilization)
    - ประสิทธิภาพตามที่ตั้งไว้ (Efficiency Compliance)
5. การบำรุงรักษา (Maintainability) มีปัจจัยย่อย 5 ประเด็น
    - วิเคราะห์ได้ (Analyzability)
    - เปลี่ยนแปลงได้ (Changeability)
    - ความมั่นคง (Stability)
    - สามารถทดสอบได้ (Testability)
    - บำรุงรักษาตามที่ตั้งไว้ (Maintainability Compliance)
6. ความสามารถในการใช้กับระบบอื่น (Portability) มีปัจจัยย่อย 5 ประเด็น
    - ปรับเปลี่ยนได้ (Adaptability)
    - ติดตั้งได้ (Installability)
    - อยู่ร่วมระบบอื่นได้ (Co-Existence)
    - ถูกแทนที่ได้ (Replaceability)
    - ปรับย้ายระบบตามที่ตั้งไว้ (Portability Compliance)

  คำถามวิจัย  
การเขียนคำถามวิจัย(Research Questions)
      ตัวผู้รวบรวมเองทราบว่าคำถามวิจัยเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญในการที่จะทำวิจัยสักเรื่องหนึ่ง แต่จะมีปัญหาสงสัยไม่รู้ว่าจะตั้งคำถามวิจัยอย่างไร  มีวิธีการเขียนที่ชัดเจนอย่างไร วันนี้ได้รวบรวมเนื้อหาจากตำราของอาจารย์ 4 ท่าน คือ ศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล ว่องวาณิช และศาสตราจารย์ ดร.นงลักษณ์  วิรัชชัย,รองศาสตราจารย์ ดร.อาทิวรรณ โชติพฤกษ์ และรองศาสตราจารย์ ดร.องอาจ นัยพัฒน์  คงพอจะให้ความกระจ่างในเรื่องนี้สำหรับผู้สนใจนะคะ
      สุวิมล ว่องวาณิช และนงลักษณ์  วิรัชชัย(2550, หน้า 149-150) ได้อธิบายความหมายไว้ว่า คำถามวิจัย(Research Questions) หมายถึง ข้อความที่เป็นประโยคคำถาม ซึ่งแสดงให้เห็นสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการค้นหาคำตอบ คำถามวิจัยและประเด็นวิจัย(Research Issues) มีความคล้ายคลึงกัน เช่น
     ผู้สนใจศึกษาประเด็นวิจัยเกี่ยวกับ “รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ” ผู้อ่านอาจคาดเดาว่าสิ่งที่ผู้วิจัยสนใจ คือ การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ หรือการวิเคราะห์รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญที่ปรากฏอยู่ทั่วไป แต่หากปรับเป็นคำถามวิจัย จะทำให้เกิดความชัดเจนในประเด็นที่ศึกษามากขึ้น เช่น
    “รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญควรมีลักษณะเช่นใด  ประกอบด้วยองค์ประกอบอะไรบ้าง ผลการใช้รูปแบบดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร”
     อาทิวรรณ โชติพฤกษ์(2553, หน้า 7) กล่าวว่า การตั้งคำถามเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะคำถามวิจัยที่ผู้วิจัยตั้งขึ้นบ่งบอกให้ทราบถึงประเด็นที่ผู้วิจัยต้องการทราบหรือทำความเข้าใจในเรื่องที่เลือกเป็นหัวข้อวิจัยนั้นๆ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้วิจัยประเมินว่าต้องทำงานวิจัยอย่างไรและในทิศทางใด จึงจะนำไปสู่คำตอบของคำถามนั้นๆ  ทั้งนี้ผู้วิจัยอาจเริ่มตั้งคำถามด้วยวลีคำถาม เช่น  อะไร  อย่างไร  ที่ไหน  เมื่อไร  กับใคร ตัวอย่างเช่น
-หัวข้อวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของอะไร และประกอบด้วยเรื่องอะไรบ้าง
-ความเป็นมาของเรื่องนี้เป็นอย่างไร
-เรื่องนี้สามารถจัดหมวดหมู่ให้อยู่ในประเภทใด
-เรื่องนี้มีอะไรดี สามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง
     เมื่อรวบรวมคำถามที่ตั้งขึ้นมาแล้ว ควรจัดกลุ่มของคำถาม และมุ่งความสนใจไปยังคำถามที่ขึ้นต้นด้วยทำไม หรืออย่างไร และพิจารณาว่าคำถามไหนที่ผู้วิจัยสนใจและอยากรู้คำตอบที่สุด คำถามนั้นจะเป็นคำถามสำหรับงานวิจัยของผู้วิจัย
องอาจ นัยพัฒน์(2551, หน้า 43-44) ให้แนวทางไว้ว่า การเขียนปัญหาการวิจัย ในรูปคำถามสามารถเขียนได้ 3 ลักษณะ คือ
1. ประเด็นคำถามเชิงพรรณนา
ได้แก่ การกำหนดหัวข้อปัญหาวิจัยในรูปคำถามที่ว่า
“ อะไรคือ อะไรเป็น” (What is)
การตอบประเด็นคำถามดังกล่าวนี้ แสดงเป็นนัยว่า นักวิจัยจะต้องอาศัยการวิจัยเชิงสำรวจ  เช่น
-อะไรคือพฤติกรรมแปลกแยกของนิสิต/นักศึกษาที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศ?
-อะไรคือพฤติกรรมการบริหารของผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์ดีเด่นและไม่ดีเด่น? 
2. ประเด็นคำถามเชิงความสัมพันธ์
ได้แก่ การกำหนดหัวข้อปัญหาวิจัย ในรูปของคำถามที่มุ่งหาคำตอบว่า
“ ตัวแปร X  มีความสัมพันธ์กับตัวแปร Y หรือไม่”  หรือ
“ ตัวแปร X  พยากรณ์ตัวแปร Y ได้หรือไม่”
การสืบหาคำตอบของคำถามทั้ง 2 ประเด็นนี้ แสดงเป็นนัยว่านักวิจัยต้องออกแบบการวิจัยเป็นประเภทการศึกษาสหสัมพันธ์(correlation  design)  เช่น
-อัตมโนทัศน์ของนักเรียนมีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหรือไม่?
-เพศ ผลการเรียนเดิมเกรดเฉลี่ย(GPA)ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ความเอาใจใส่ต่อการศึกษาเล่าเรียน ทำนายความสำเร็จในการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีได้อย่างแม่นตรงหรือไม่?
 3. ประเด็นคำถามเชิงเปรียบเทียบ
   ได้แก่ การกำหนดหัวข้อปัญหาวิจัย ในรูปของคำถามที่มุ่งเน้นการเปรียบเทียบพฤติกรรมหรือปรากฏการณ์ที่สนใจระหว่างกลุ่มควบคุมที่ที่ดำเนินตามสภาวะปกติและกลุ่มทดลองที่จัดกระทำทางการทดลองขึ้น กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ รูปแบบของคำถามประเภทนี้มุ่งหาคำตอบว่า
“มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างหรือวิธีการที่นักวิจัยดำเนินการขึ้นหรือไม่”
คำถามวิจัยประเภทนี้ต้องอาศัยแบบการวิจัยเชิงทดลอง(experimental design) หรือการศึกษาย้อนรอยเปรียบเทียบหาสาเหตุ(causal comparative design) มาใช้ในการสืบค้นหาคำตอบ เช่น
-ผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์ดีเด่นและไม่ดีเด่น มีพฤติกรรมการบริหารงานด้านภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง(transformational leadership) การจัดการ การตัดสินใจ และการติดต่อสื่อสารแตกต่างกันหรือไม่?
สุวิมล ว่องวาณิช และนงลักษณ์ วิรัชชัย(2550, หน้า 100- 19) ได้ยกตัวอย่าง การตั้งคำถามวิจัย ของงานวิจัยประเภทต่างๆซึ่งมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยแตกต่างกันไว้ ดังนี้
ประเภทงานวิจัย/วัตถุประสงค์การวิจัย
ตัวอย่างคำถามวิจัย
การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์
-บรรยายเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต -วิเคราะห์เชื่อมโยงความเกี่ยวข้องระหว่างปรากฏการณ์ -บรรยายสภาพการณ์และอภิปรายสรุป
 
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดวิวัฒนาการของปรัชญาการศึกษาไทยที่ใช้อยู่ในอดีตจนมาเป็นแบบการเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
การวิจัยเชิงสำรวจ
ศึกษาเหตุการณ์ สภาพต่างๆที่เกิดขึ้น ตัวแปรที่ศึกษาไม่ถูกจัดกระทำ แต่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
 
สภาพปัญหาของการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของครูระดับประถมศึกษามีอะไรบ้าง
การวิจัยเชิงทดลอง
ศึกษาอิทธิพล หรือผลของตัวแปรจัดกระทำที่มีต่อตัวแปรตาม โดยมีการควบคุมตัวแปรที่ไม่เกี่ยวข้องโดยใช้แผนการทดลอง
 
ผลของการสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้น ป.6 ต่างจากการสอนแบบเดิมอย่างไร
การวิจัยเชิงกึ่งทดลอง
-ศึกษาอิทธิพลหรือผลของตัวแปรจัดกระทำที่มีต่อตัวแปรตาม โดยมีการควบคุมตัวแปรที่ไม่เกี่ยวข้องโดยใช้แผนการทดลอง -ควบคุมความแปรปรวนโดยแผนแบบการทดลองและสถิติ
 
ผลของการสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้น ป.6 ต่างจากการสอนแบบเดิมอย่างไร
การวิจัยเชิงบรรยาย/เชิงสัมพันธ์/เชิงเปรียบเทียบ-สาเหตุ
ศึกษาเหตุการณ์ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ตัวแปรที่ศึกษาไม่ถูกจัดกระทำ แต่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
 
ปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของครูระดับประถมศึกษา
การวิจัยเชิงคุณภาพ
-บรรยายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้เห็นภาพรวมอย่างลึกซึ้ง -บรรยายสภาพการเปลี่ยนแปลงปรากฏการณ์ -วิเคราะห์/เชื่อมโยงความเกี่ยวข้องระหว่างปรากฏการณ์หรือสร้างทฤษฎีฐานราก(ground theory) บรรยายสภาพผลที่เกิดขึ้นในเงื่อนไขสถานการณ์ต่างๆ
 
-ในการสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้สอนต้องปรับบทบาทอย่างไร
-มีปัญหาในการปรับตัวใหม่ตามปรัชญาในการสอนแบบใหม่อย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนผู้สอนเปลี่ยนไปอย่างไร ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบใด พฤติกรรมการเรียนเป็นแบบใด
การวิจัยเชิงประเมินผล
   เพื่อตรวจสอบบริบท ปัจจัย กระบวนการ ผลการดำเนินงานในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ตามเกณฑ์ที่กำหนด และตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการ
 
โครงการหรือกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่โรงเรียนกำลังดำเนินการอยู่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลระดับใด มีจุดแข็ง จุดอ่อนอะไรบ้าง หากต้องการพัฒนาให้ดีขึ้น ควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
การวิจัยและพัฒนา
พัฒนาระบบ  เครื่องมือ หรือผลงานทางวิชาการ และตรวจสอบสิ่งที่พัฒนาขึ้นในด้านประสิทธิผลและประสิทธิภาพ รวมทั้งความเหมาะสมกับสภาพเงื่อนไขต่างๆ
 
รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนที่พัฒนาขึ้นมีลักษณะเช่นใด
การวิจัยอนาคต
บรรยายสภาพการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
 
-ลักษณะของการสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางใน 25 ปีข้างหน้าจะมีปรัชญา หลักการ และวิธีการเป็นรูปแบบใด -ผลดี ผลเสีย และผลกระทบที่เกิดจากกรสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางในอนาคต 25 ปีข้างหน้ามีลักษณะอย่างไร จะทำอย่างไรจึงจะทำให้เกิดผลดี
การสังเคราะห์งานวิจัย
-การสังเคราะห์ สรุปผลการวิจัย และการอธิบายความแตกต่างระหว่างผลการวิจัยที่นำมาสังเคราะห์ -การศึกษาคุณลักษณะงานวิจัย ขนาดอิทธิพล
-ขนาดอิทธิพลของการสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางมีค่าโดยประมาณเป็นเท่าใด(เชิงปริมาณ) -ตัวแปรปรับ(moderator) อะไรบ้าง มีผลต่อขนาดอิทธิพล(เชิงปริมาณ) -การสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างไร(เชิงคุณภาพ)
 
 สุวิมล ว่องวาณิช และนงลักษณ์  วิรัชชัย(2550, หน้า 150) กล่าวว่า ข้อบกพร่องที่พบในรายงานวิจัยของนิสิตนักศึกษา คือ การกำหนดคำถามวิจัยในลักษณะของข้อความที่รู้คำตอบอยู่แล้ว อาจมีเพียงผู้วิจัยที่ยังไม่รู้คำตอบ เช่น “การสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญคืออะไร”, “การสังเคราะห์งานวิจัย คืออะไร จะจัดทำได้อย่างไร” ลักษณะของคำถามเหล่านี้สามารถหาคำตอบได้จากตำราทั่วไป ไม่ใช่ค้นหาจากงานวิจัย
 
เอกสารอ้างอิง
สุวิมล  ว่องวานิช. (2550). แนวทางการให้คำปรึกษาวิทยานิพนธ์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
องอาจ นัยพัฒน์. (2551). วิธีวิทยาการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร : สามลดา.
อาทิวรรณ  โชติพฤกษ์.  ก้าวสู่ความเป็นนักวิจัยมืออาชีพ.  กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/399427
ตัวอย่างแบบสอบถาม

แบบสอบถามความพึงพอใจ / ไม่พึงพอใจต่อการให้บริการ
สำนักงาน.....................................................................
เดือน.................................พ.ศ.2553
 
ข้อชี้แจง   กรุณาทำเครื่องหมายpในข้อที่ตรงกับความเป็นจริงและในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านมากที่สุด

  ตอนที่ 1  ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
 
 
1.  เพศ                1)  ชาย                              2)  หญิง
2.  อายุ                1)  ต่ำกว่า 20 ปี        2)  21 - 40 ปี         4)  41 60 ปี                  6)  60 ปีขึ้นไป
3.  ระดับการศึกษาสูงสุด
                        1)  ประถมศึกษา                              2)  มัธยมศึกษาตอนต้น/ตอนปลาย/เทียบเท่า                               3)  ปริญญาตรี                               4)  สูงกว่าปริญญาตรี                             
4.  สถานภาพของผู้มารับบริการ
                       1)  เกษตรกร/องค์กรเกษตรกร                         2)  ผู้ประกอบการ    
                       3)  ประชาชนผู้รับบริการ                               4)  องค์กรชุมชน/เครือข่ายองค์กรชุมชน
                       5) อื่นๆ  โปรดระบุ ……………………………………….

   ตอนที่ 2  ความพึงพอใจ / ไม่พึงพอใจต่อการให้บริการ
 
 
ประเด็น/ด้าน
ระดับความพึงพอใจ
ระดับความไม่พึงพอใจ
พอใจมาก
พอใจ
พอใจน้อย
ไม่พอใจ
ไม่พอใจมาก
1. ด้านเวลา
 1.1  การให้บริการเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด
 1.2  ความรวดเร็วในการให้บริการ
2.  ด้านขั้นตอนการให้บริการ
 2.1 การติดป้ายประกาศหรือแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับ       
     ขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการ
2.2 การจัดลำดับขั้นตอนการให้บริการตามที่ประกาศไว้
2.3 การให้บริการตามลำดับก่อนหลัง เช่นมาก่อนต้อง
    ได้รับบริการก่อน
ประเด็น/ด้าน
ระดับความพึงพอใจ
ระดับความไม่พึงพอใจ
พอใจมาก
พอใจ
พอใจน้อย
ไม่พอใจ
ไม่พอใจมาก
3.  ด้านบุคลากรที่ให้บริการ
3.1  ความเหมาะสมในการแต่งกายของผู้ให้บริการ
3.2 ความเต็มใจและความพร้อมในการให้บริการอย่างสุภาพ
3.3 ความรู้ความสามารถในการให้บริการ เช่น สามารถ
    ตอบคำถาม ชี้แจงข้อสงสัยให้คำแนะนำได้ เป็นต้น
3.4 ความซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติหน้าที่เช่น  ไม่ขอ
    สิ่งตอบแทน, ไม่รับสินบน, ไม่หาผลประโยชน์
    ในทางมิชอบ
3.5 การให้บริการเหมือนกันทุกรายโดยไม่เลือกปฏิบัติ
4.  ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก
4.1 ความชัดเจนของป้าย สัญลักษณ์ ประชาสัมพันธ์บอก
    จุดบริการ
4.2 จุด /ช่อง การให้บริการมีความเหมาะสมและเข้าถึงได้
    สะดวก
4.3 ความเพียงพอของสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ที่นั่งรอ
     รับบริการ น้ำดื่ม  หนังสือพิมพ์ ฯลฯ
4.4  ความสะอาดของสถานที่ให้บริการ 
5.  ท่านมีความพึงพอใจ / ไม่พึงพอใจต่อการให้บริการในภาพรวม อยู่ในระดับใด

ตอนที่ 3   ปัญหา / ข้อเสนอแนะ
 
 
ปัญหา             1. .................................................................................................................................
                    2. .................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ       1. .. .................................................................................................................................
                   2. .. .................................................................................................................................
          ขอขอบคุณในความร่วมมือที่ท่านได้เสียสละเวลาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ทางราชการในครั้งนี้
วันที่..............เดือน...............................พ.ศ.2553
แบบสรุปประเมินผลความพึงพอใจ / ไม่พึงพอใจต่อการให้บริการ
หน่วยงาน........................................................................
ประจำเดือน..................................พ.ศ. 2553
ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป     จำนวนผู้เข้าตอบแบบสอบถามทั้งหมด ...................คน  
ข้อมูลทั่วไป
จำนวน
ร้อยละ
หมายเหตุ
1.  เพศ
·        ชาย
·                    หญิง
2.  อายุ              
·        ต่ำกว่า 20 ปี         
·        21 - 40 ปี     
·        41 60 ปี               
·        60 ปีขึ้นไป
3.  ระดับการศึกษาสูงสุด
·         ประถมศึกษา                              
·         มัธยมศึกษาตอนต้น/ตอนปลาย/เทียบเท่า                        
·         ปริญญาตรี                
·         สูงกว่าปริญญาตรี 
4.  สถานภาพของผู้มารับบริการ
·                                                                              เกษตรกร/องค์กรเกษตรกร     
·                                                                              ผู้ประกอบการ       
·                                                                              ประชาชนผู้รับบริการ
·                                                                              องค์กรชุมชน/เครือข่ายองค์กรชุมชน
·                                                                              อื่นๆ  โปรดระบุ …………………….
ตอนที่ 2  ความพึงพอใจ/ความไม่พึงพอใจในภาพรวมของการดำเนินกิจกรรม
             ประเด็น
ความพึงพอใจ
ความไม่พึงพอใจ
พอใจมาก
พอใจ
พอใจน้อย
ไม่พอใจ
ไม่พอใจมาก
จำนวน
ร้อยละ
จำนวน
ร้อยละ
จำนวน
ร้อยละ
จำนวน
ร้อยละ
จำนวน
ร้อยละ
1. ด้านเวลา
 1.1  การให้บริการเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด
1.2  ความรวดเร็วในการให้บริการ
2.  ด้านขั้นตอนการให้บริการ
2.1 การติดป้ายประกาศหรือแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการ
             ประเด็น
ความพึงพอใจ
ความไม่พึงพอใจ
พอใจมาก
พอใจ
พอใจน้อย
ไม่พอใจ
ไม่พอใจมาก
จำนวน
ร้อยละ
จำนวน
ร้อยละ
จำนวน
ร้อยละ
จำนวน
ร้อยละ
จำนวน
ร้อยละ
2.2 การจัดลำดับขั้นตอนการให้บริการตามที่ประกาศไว้
2.3 การให้บริการตามลำดับก่อนหลัง เช่น มาก่อนต้องได้รับบริการก่อน
3.  ด้านบุคลากรที่ให้บริการ
3.1 ความเหมาะสมในการแต่งกายของผู้ให้บริการ
3.2 ความเต็มใจและความพร้อมในการให้บริการอย่างสุภาพ
3.3 ความรู้ความสามารถในการให้บริการ เช่น สามารถตอบคำถาม ชี้แจงข้อสงสัยให้คำแนะนำได้เป็นต้น
3.4 ความซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น ไม่ขอสิ่งตอบแทน, ไม่รับสินบน, ไม่หาผล ประโยชน์ในทางมิชอบ
3.5 การให้บริการเหมือนกันทุกรายโดยไม่เลือกปฏิบัติ
4.  ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก
4.1 ความชัดเจนของป้ายสัญลักษณ์ ประชาสัมพันธ์บอกจุดบริการ
4.2 จุด /ช่อง การให้บริการมีความเหมาะสมและเข้าถึงได้สะดวก
4.3 ความเพียงพอของสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ที่นั่งรอรับบริการ น้ำดื่ม หนังสือพิมพ์ ฯลฯ
4.4 ความสะอาดของสถานที่ให้บริการ 
5.  ท่านมีความพึงพอใจ / ไม่พึงพอใจต่อการให้บริการในภาพรวม อยู่ในระดับใด
ตอนที่ 3 ปัญหา/ ข้อเสนอแนะ
.................................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น